วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

มุสลิมปฏิบัติตนอย่างไร

มนุษย์แต่ละคนต่างมี "ช่วงเวลาแห่งชีวิตของเขา”  แต่กระนั้น ก็ยังคงมีคำถามที่ว่า "แล้วใครคือผู้เติมเต็มสิทธิแห่งการมีชีวิต?" 
“บรรดาสัตว์” ที่ไร้ซึ่ง “สติปัญญา” และ “ความเฉลียวฉลาด” สามารถดำเนินชีวิตของพวกมันได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม "มนุษย์" ที่มีทั้ง "สติปัญญา" และ "ความเฉลียวฉลาด" ย่อมดำเนินชีวิตของพวกเขาได้ดีกว่าและเหนือกว่าอย่างมาก  เช่นเดียวกัน "ผู้ปฏิเสธ" เองก็ดำเนินชีวิตแต่ละวันของเขาไปได้โดยที่พวกเขาวนเวียนอยู่ในความมืดมิดบนหนทางที่ผิดและเบี่ยงเบน อย่างไรก็ตาม "ชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น" ต่างจาก “ชีวิตของมุสลิม” ที่ดำเนินชีวิตอยู่บน "ความปลอดภัย" "ความราบรื่น” ตามหลักการแห่งพระวัจนะของพระผู้เป็นเจ้า
“ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนของผู้ปฏิเสธ” ย่อมถูกใช้ไปด้วยความมืดมิดแห่งจิตวิญญาณ ขณะที่ “บรรดามุสลิม” ใช้เวลาทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนของเขาด้วยแสงสว่างแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้น "คำถามหนึ่งจึงเกิดขึ้นมา" คือ บรรดามุสลิมแต่ละคนนั้นควรใช้ชีวิตของเขาทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนอย่างไรเพื่อที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของเขานั้นแตกต่างจากชีวิตของบรรดาผู้ปฏิเสธ 
มุสลิมแต่ละคน ควรใช้เวลาของเขาทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนของเขา ด้วยสิ่งเหล่านี้ 

1.       จงแสวงหาความรู้ด้านศาสนาที่สอดคล้องต่อความจำเป็นของคุณ คุณสามารถที่จะแสวงหาความรู้ได้ด้วยการอ่านหนังสือ หรือแสวงหาความรู้จากบรรดาอุลามะฮฺ
2.       จงยับยั้งจากการกระทำบาปทั้งหลาย
3.       หากคุณกระทำความผิดบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง จงทำการขออภัยโทษ สำนึกผิดต่ออัลลอฮฺโดยทันที
4.       จงอย่าล้าช้าในการเติมเต็มสิทธิของผู้อื่น จงอย่าสร้างความเจ็บปวดใดๆ ต่อผู้คนไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางวาจา และจงอย่ากล่าวร้ายต่อใคร
5.       จงอย่ามีความรักต่อ “ทรัพย์สิน” หรือ “ความใคร่ปรารถนาต่อการมีชื่อเสียง หรือเกียรติยศใดๆ”  จงอย่าทำให้ตัวของคุณต้องหมกมุ่นอยู่กับการกินดื่มหรือการแต่งกายที่ฟุ่มเฟือย
6.       หากมีผู้ใดก็ตามที่ประนามด่าทอความผิดหรือความผิดพลาดใดๆ ของคุณ จงอย่าพยายามหาเหตุผลแก้ตัวต่อการกระทำของคุณ จงยอมรับในความผิดนั้นและสำนึกผิดเสีย  
7.       จงอย่าเดินทางหากไม่มีความจำเป็นใดๆ ด้วยเพราะว่า "การกระทำที่ผิดพลาด (ในการทำอิบาดะฮฺ)" อาจเกิดขึ้นขณะเดินทาง คุณอาจพลาดจากการกระทำความดีงามมากมาย  เพราะมันอาจเกิดความบกพร่องในรูปแบบที่แตกต่างกันของการซิเกรฺ (การรำลึกถึงอัลลอฮฺ) และคุณอาจไม่สามารถที่จะปฏิบัติศาสนกิจภายในเวลาได้ (ขณะเดินทาง)
8.       จงอย่าหัวเราะหรือพูดมากจนเกินไป คุณควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการที่จะไม่พูดคุยกับ "กอยัรฺ มะหฺรอม"  (คือผู้ที่ไม่สามารถแต่งงานกันได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และอาจที่จะสามารถแต่งงานกันได้ในภายหลัง เช่นพี่เลี้ยง ที่ได้รับการเลี้ยงดู อุปการะ, หรือลูกพี่ลูกน้อง เป็นต้น) ด้วยวิธีการพูดคุยเป็นกันเอง

*กอยัรฺ มะหฺรอม (Ghayr Mahrams) หมายรวมถึงผู้ชายทุกคนที่สตรีสามารถแต่งงานด้วยได้ (ตัวอย่างเช่นญาติพี่น้อง หรือผู้ชายทั่วไป) หรือผู้ชายที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้แต่งงานด้วยได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และอาจจะสามารถแต่งงานกับเธอได้ในอนาคต เนื่องด้วยสภาพหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หรืออีกนัยหนึ่งนั้น หมายถึง "ผู้ชาย" ที่ไม่ได้รับการอนุมัติชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ยกตัวอย่างเช่น "สตรีมุสลิมที่แต่งงานแล้ว" ย่อมเป็นที่ต้องห้ามในการที่จะแต่งงานกับมุสลิมชายอีกคนหนึ่ง ตราบใดที่เธอยังคงสถานะการแต่งงานอยู่ หากแต่เมื่อเธอได้หย่าขาดจากสามีเดิมและผ่านช่วง "อิดดะฮฺ" (ช่วงเวลาการรอคอยหลังจากการหย่า) ไปแล้ว เธอย่อมสามารถที่จะแต่งงานกับมุสลิมชายอีกคนได้ และเขาก็ไม่เป็นที่ต้องห้ามสำหรับเธออีกต่อไป)  
Ref: http://www.islamicinformation.net/2008/07/mahram-in-islam-explained.html

9.       จงอย่าบอกเล่าหรือพูดเกี่ยวกับ "การโต้แย้งที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน" ให้ผู้อื่นทราบ
10.   พึงระวังเกี่ยวกับ "กฏชารีอะฮฺ" ในทุกๆ การกระทำของคุณ
11.   จงอย่าแสดงความเกียจคร้านในการทำอิบาดะฮฺใดๆ ก็ตาม
12.   จงพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่ของคุณในการที่จะอยู่เพียงลำพัง (เพื่อการรำลึกถึงอัลลอฮฺ และกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ :เพิ่มเติมโดยผู้แปล)
13.   หากคุณจำต้องพบปะหรือสนทนากับผู้คน จงแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่แสดงตัวเหนือกว่าพวกเขา
14.   คุณควรที่จะคบค้าสมาคมกับบรรดาผู้นำและบรรดาผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงให้น้อยที่สุด
15.   จงออกห่างจากบรรดาผู้ที่ไร้ศาสนาให้มากที่สุด
16.   จงอย่าแสวงหาความผิดของผู้อื่น และอย่าคิดไม่ดีต่อพวกเขา หากแต่จงมองหา “ความผิดของตัวคุณเอง” และพยายามปรับปรุงแก้ไขสิ่งเหล่านั้นเสีย
17.   คุณควรให้ความสำคัญต่อ "การละหมาด" ด้วยมรรยาทที่ดีงาม ในเวลาที่เหมาะสม และสำรวมตนในเวลาละหมาด (คุชัวะอฺ)
18.   จงทำให้ตัวของคุณยุ่งอยู่กับการรำลึกถึงอัลลอฮฺ (การซิเกรฺ) ไม่ว่าจะด้วยใจของคุณหรือลิ้นของคุณ จงอย่าละเลยสิ่งนี้ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ตาม
19.   หากคุณประสบกับความพึงพอใจใดๆ ในการรำลึกถึงพระนามของอัลลอฮฺ และหัวใจของคุณรู้สึกถึงความสุขต่อสิ่งนี้ จงทำการสรรเสริญ ขอบคุณต่ออัลลอฮฺ
20.   จงพูดด้วยวิธีการที่ดีและมีความนอบน้อม
21.   บริหารเวลา จัดตารางเวลาสำหรับหน้าที่การงานทั้งหลายของคุณและปฏิบัติตามมันอย่างเคร่งครัด
22.   ใคร่ครวญต่อความเศร้าโศก ความเสียใจ หรือความสูญเสียที่คุณประสบว่า สิ่งเหล่านั้นมาจากพระประสงค์ของอัลลอฮฺ จงอย่าท้อแท้ สิ้นหวัง หากแต่จงรำลึกว่าคุณย่อมได้รับรางวัลการตอบแทนจากสิ่งที่คุณได้ประสบ
23.   จงอย่าใช้เวลาทั้งหมดไปกับการนึกถึง "เรื่องราวของโลกดุนยา" "การคิดคำนวณ" "กำไร" หรือ "ขาดทุน" เป็นต้น หากแต่จงรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มาก
24.   จงพยายามให้ความช่วยเหลือและกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  โดยไม่คำนึงว่า “การกระทำนั้นๆ” จะเป็นกิจการในโลกดุนยาหรือกิจการด้านศาสนาก็ตาม
25.   จงอย่ากินและดื่มน้อยจนเกินไป จนทำให้ร่างกายของคุณอ่อนแอ และล้มป่วยลง และอย่ากินหรือดืมมากจนเกินไป จนทำให้คุณเกิดความเกียจคร้านในการปฏิบัติอิบาดะฮฺทั้งหลาย
26.   จงอย่ามีความปรารถนาหรือความโลภต่อสิ่งใดๆ จากผู้คน เว้นแต่อัลลอฮฺ จงอย่าปล่อยให้จิตใจของคุณหมกมุ่นกับความคิดที่ว่าคุณจะได้รับกำไร หรือผลประโยชน์จากที่นั่น ที่นี่ เพียงใด
27.   จงอย่าหยุดนิ่งในการแสวงหาความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺ
28.   จงขอบคุณต่อทุกๆ ความโปรดปรานที่คุณได้รับ โดยไม่คำนึงว่ามันมากหรือน้อยเพียงใด จงอย่าโศกเศร้าเสียใจต่อความยากจนขัดสน
29.   จงมองข้ามความผิดและความผิดพลาดของผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณ
30.   หากคุณทราบถึงความผิดของใครสักคน จงปกปิดมันแก่เขา อย่างไรก็ตาม หากคนคนนั้นวางแผนที่จะประสงค์ร้ายต่อผู้อื่น และคุณรับทราบเกี่ยวกับเรื่องนึ้ คุณควรเตือนให้อีกฝ่ายรับทราบ (เพื่อให้เขาระวังและป้องกันตัว)
31.   จงให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นผู้เดินทางมาไกล คนแปลกหน้า บรรดาอุลามะฮฺ หรือบ่าวผู้ศรัทธาของอัลลอฮฺ
32.   จงเลือกคบเพื่อนที่ดี มีคุณธรรม
33.   มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺตลอดเวลา
34.   จงรำลึกถึงความตาย
35.   หาช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในแต่ละวันไว้สำหรับการใคร่ครวญ พิจารณาถึงการกระทำทั้งหลายที่คุณได้ทำในแต่ละวัน เมื่อคุณตระหนักถึงความดีงามที่คุณได้กระทำ จงทำการสรรเสริญขอบคุณอัลลอฮฺ และเมื่อคุณตระหนักถึงความผิดบาปที่คุณได้กระทำ จงทำการสำนึกผิดต่ออัลลอฮฺ
36.   จงอย่าพูด “โกหก”
37.   จงอย่าเข้าร่วมในกิจการ หรือกลุ่มคน ที่มีความขัดแย้งกับหลักชารีอะฮฺ
38.   จงดำเนินชีวิตด้วยความละอาย ความอ่อนน้อม ถ่อมตน และความอดทนอดกลั้น
39.   จงอย่าภาคภูมิใจต่อตัวคุณเอง โดยคิดว่า “ฉันมีคุณสมบัติดีดีมากมาย ในตัวฉัน”
40.   จงขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺตลอดเวลาให้พระองค์ทรงทำให้คุณยึดมั่น และยืนหยัดอยู่ในหนทางที่ถูกต้องนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น